ติวสัมภาษณ์งาน กับสายงานที่คุณสนใจ แบบส่วนตัว กับผม

สมัครเลย เดือนนี้มีโปรโมชันพิเศษนะครับ

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Job interview Coaching


หลังจากที่ได้เขียน blog เรื่องเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งานแล้ว และได้เรียกเพื่อนๆที่กำลังจะไปสัมภาษณ์งานได้เข้ามาอ่านก็พบว่าบางท่านอาจจะยังมีคำถาม และหลายๆคำถามที่ผมเขียนนั้นอาจจะยังต้องประยุกต์เพื่อตอบโจทย์สายอาชีพ ผมได้คุยกับเพื่อนเรื่องการเตรียมตัวสัมภาษณ์ และความพร้อมอยู่นานจึงทราบว่า แต่ละสายอาชีพนั้นควรที่จะมีคำตอบที่แตกต่างกัน

หากคุณรู้สึกไม่พร้อม
หากคุณรู้สึกประหม่า
หากคุณตื่นเต้น

กับการสัมภาษณ์งานที่คุณรัก 
อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดไป

ลองมาคุยกับผมได้ ผมพร้อมที่จะเป็นโค้ชให้คุณ เพื่อคุณจะได้เตรียมพร้อมในการสัมภาษณ์งาน



สามารถติดต่อผมผ่าน
https://www.facebook.com/face2cu   ส่งเป็น inbox มานะครับ
หรือ
line Account : face2cu


วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Question 17: หากไปเป็นหัวหน้าคนที่แก่กว่าเยอะๆ แล้วค่อนข้างจะยึดติดกับเรื่องเดิมๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง หัวแข็ง จะจัดการเรื่องนี้ยังใง job interview by face2cu


คำถาม : หากไปเป็นหัวหน้าคนที่แก่กว่าเยอะๆ แล้วค่อนข้างจะยึดติดกับเรื่องเดิมๆ ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง หัวแข็ง จะจัดการเรื่องนี้ยังใง

คำตอบ : ด้วยตำแหน่งที่ใหญ่กว่า ก็สั่งเลยซิครับ

หากใครก็ตามที่ได้รับคำถามแบบนี้ให้ลองนึกถึงตัวเองว่าถ้าเจอเด็กมาสั่งงานจะรู้สึกอย่างไร หากเด็กคนนั้นไม่เคยที่จะเข้าใจเราแล้วมาสั่งให้ทำโน้นนี่ เราก็ย่อมที่จะไม่ยอมทำตาม ปัญหานี้เป็นปัญหาที่เจอทุกที่ เพราะในองค์กรทุกที่มักจะมีคนหลากหลายอายุ ดังนั้นในการตอบอาจจะไม่สามารถพูดได้ชัดเจนว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องของคนนั้น เป็นเรื่องที่ยากครับ

ในการตอบสิ่งแรกที่ควรตอบคือ การเข้าใจคนเหล่านั้น เข้าใจลักษณะงาน เข้าพูดคุย จนคนเหล่านั้นไว้ใจ เชื่อใจว่าเราเป็นผู้นำ แล้วจากนั้นเราก็ค่อยโน้มน้าวให้เค้าค่อยๆเปลี่ยนมาตามแนวทางเรา

ตัวอย่างเช่น หากผมได้รับโอกาสเป็นหัวหน้างานนี้แล้ว หน้าที่สำคัญคือการทำให้หน่วยงานนี้สร้าง value added ให้กับองค์กรมากที่สุด ดังนั้นทีมงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของผมนั้น ทุกคนเป็นกำลังสำคัญ สิ่งแรกที่ผมจะต้องทำคือ ทำความเข้าใจลักษณะงาน  ข้อจำกัดต่างๆ ไม่ว่าจะด้านระบบ ด้านคน ด้านปัญหา และที่สำคัญคือการทำให้เขารู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน ยอมรับซึ่งกันและกัน และเมื่อเราทำให้คนในทึมรู้สึกว่าเราเป็นทีมเดียวกัน คนในทีมจะไว้ใจผมแล้ว คนกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงยาก ก็จะค่อยๆ ยอมปรับตัวเพื่อทำให้ทีมนั้นเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น 

คำถามจากทางบ้านซึ่งถามมาทาง Line (เพื่อนผมเองครับ) ใครสงสัยมีคำถามสอบถามมาได้นะครับ 

ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Question 16 : ลองเล่าผลงานที่ผ่านมาของคุณให้ฟังหน่อยครับ job interview by face2cu




คำถาม : ลองเล่าผลงานที่ผ่านมาของคุณให้ฟังหน่อยครับ

คำตอบ : ทำยอดขายได้ที่หนึ่งครับ . . .


ถึงเวลาแล้วที่จะต้องแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดให้กับกรรมการฟังโดยไม่ต้องอาย แต่หากมีหลายผลงานมากมายก็ไม่ควรที่จะเล่าทุกเรื่อง เราควรที่จะเลือกเรื่องที่เด็ดที่สุดออกมาหนึ่งถึงสองเรื่อง พร้อมกับมีเนื้อหาประกอบเอาแบบเป็นฉากๆเหมือนในละครเลยครับ เล่าให้น่าติดตามและน่าสนใจ แต่ก็ห้ามลืมว่าต้องไม่เป็นเรื่องโกหกเด็ดขาดเพราะคำถามนี้อาจจะมีคำถามอื่นๆวิ่งมาเต็มที่ไปหมด

ตัวอย่างเช่น หากทำยอดการขายได้ที่หนึ่งของปี ก็ควรจะบอกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในหน้าทำอะไรบ้าง แล้วทำอย่างไรละ ก็เล่าไปให้กรรมการเข้าใจ หากมีปัญหาก็เล่าด้วยว่าเราติดขัดอะไรอย่างไร จากนั้นก็ค่อยๆเล่าถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของเรา และก็มุ่งเข้าสู่ความสำเร็จของผลงานเลยครับ ซึ่งหากเราเล่าได้ดีก็จะมีคำถามต่างๆตามมาซึ่งก็ทำให้เรามีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งกรรมการก็จะเห็นถึงความสามารถ ไหวพริบ การทำงาน มนุษยสัมพันธ์ และด้านอื่นๆเลย

คำถามนี้ยังไงก็ต้องเตรียมให้พร้อมนะครับ


ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

Question 15 : คุณเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือกับหัวหน้างานหรือกับเพื่อนบ้างไหม job interview by face2cu



คำถาม : คุณเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานหรือกับหัวหน้างานหรือกับเพื่อนบ้างไหม
คำตอบ : มีครับ เยอะด้วยโดยเฉพาะกับหัวหน้า . . .

คำถามแบบนี้อาจจะดุไม่สร้างสรรค์เท่าไหร่ แต่การจะตอบว่าไม่มี มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย ผมอยากให้ลองนึกดูครับว่าเคยมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือเพื่อนบ้างมั้ย ถ้าหากว่ามีเยอะมากก็เลือกเรื่องที่สำคัญๆลงมาก่อน ในเรื่องส่วนตัวคงจะไม่ควรจะไปเล่าให้ใครฟัง ควรที่จะเลือกปัญหาที่เกี่ยวข้องกับงาน แล้วก็เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟัง พร้อมทั้งแจงรายละเอียดปัญหา และจบข้อสรุปลงด้วยความปรองดอง (คงไม่ต้องถึงนิรโทษกรรมนะ) ก็จะทำให้คุณจบได้อย่างเป็นพระเอก

ตัวอย่างเช่น
เคยครับ ผมเคยมีการถกเถียงกับหัวหน้าเรื่อง การทำ Presentation ในนามตัวแทนฝ่ายครับ หัวหน้าผมต้องการให้ผมลงข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ในขณะที่ผมเห็นว่าการนำข้อมูลที่มากมายลงไปจะทำให้ผู้ฟังไม่สามารถจับประเด็นได้ชัดเจน แต่ผมพูดกับหัวหน้าอย่างไรก็ตาม หัวหน้าผมก็ยังยืนกรานรูปแบบเดิม ผมเลยต้องทำตามที่หัวหน้าสั่ง แต่ขณะเดียวกันผมก็เตรียมทำ Presentation อีกชุดไว้เผื่อมีการแก้ไข และเมื่อทางผู้จัดการฝ่ายมี comment ว่า Presentation ที่มีข้อมูลจนเกินไป ผมก็เสนอ Presentation ตัวใหม่ให้หัวหน้าผม ซึ่งทางหัวหน้าผมก็ยอมรับกับ Presentation ตัวใหม่ของผม

เห็นมั้ยครับการเล่าแบบนี้ก็ทำให้กรรมการเห็นถึงนิสัยความอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ดื้อด้านกับหัวหน้า


ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Question 14 : กิจกรรมยามว่างของคุณคืออะไรครับ job interview by face2cu



คำถาม : กิจกรรมยามว่างของคุณคืออะไรครับ
คำตอบ : ก็. . . นอน กิน เที่ยว . . .

การถามแบบนี้เปลี่ยนเสมือนกับการถามแบบผ่อนคลาย ถามไปเรื่อยๆ ตอบอะไรก็ได้ที่ดูดี บางคนอาจจะชอบอ่านหนังสือ ชอบทำสวน ชอบช่วยเหลือคนอื่น แหนะดูดีใช้มั้ย แต่จริงๆแล้ว ชอบนอน ชอบดูโทรทัศน์ ติดมือถือ ชอบเที่ยว แหมใครๆก็ชอบแบบนี้แหละ แต่จะตอบแบบนี้ก็ดูจะทื่อเกินไปหน่อย งั้นก็ต้องขอตอบแบบดูดี พูดแบบผ่อนคลายๆนะครับ

ตัวอย่างเช่น หากไปสมัครงานที่ต้องใช้ทักษะการอ่านการเขียน ก็อาจจะมีกิจกรรมรักการอ่านเข้าไปหน่อย แต่ก็อย่าพูดว่ากิจกรรมว่าคืออ่านหนังสือแล้วก็จบ ต้องอธิบายต่อด้วย ว่าหนังสืออะไร เนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้างจะได้ดูว่าเราอ่านมาจริงๆ  หากไปสมัครงานด้านข่าว ก็อาจจะชอบดูโทรทัศน์ ชอบฟังข่าว สนใจข่าวแนวไหน ก็ว่าไปจะข่าวการเมือง สภาโจ๊ก ข่าวชาวบ้านก็เล่าไปเลย เล่าแบบ easy แต่แอบแทรกความสามารถของหน้าที่เข้าไป กรรมการก็คงจะให้คะแนนเราเพิ่มแน่ๆ




ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Question 13 : จงบอกข้อเสียของคุณหน่อยซิ job interview by face2cu



คำถาม : จงบอกข้อเสียของคุณหน่อยซิ
คำตอบ : เป็นคนขี้เกียจ ชอบอู้ นินทาเจ้านาย ตะคอกใส่ลูก ค้า เดี๋ยว ยังมีอีก . . . ยังมีต่อ . . . 


จริงอยู่บนโลกนี้ไม่มีใคร Perfect 100 % เพราะถ้าหากว่าใครคิดว่าตัวเองดีเลิศร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็แสดงว่านั้นแหละคือข้อเสียของเค้า งง ไหม ถ้า งง อ่านใหม่อีกรอบครับ 

ผมเชื่อว่าหลายๆคนมีข้อเสียในตัวเองแต่บางข้อเสียที่เราสามารถแก้ไขได้ ก็ควรที่จะแก้ไข แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ต้องยอมรับให้ได้ครับ แต่สำหรับคำถามนี้การตอบแบบตรงๆ ซื่อๆ ก็อาจจะทำให้กรรมการมองไม่ดี อย่างเช่น เป็นคนขี้เกียจ นอนเก่ง ชอบนินทาชาวบ้าน โยนงานเก่ง 

 เราควรจะบอกข้อเสียที่ยังมีข้อดีอยู่บ้าง อย่างเช่น ผมบ้างานมากเวลาทำงานก็บางครั้งก็จะตั้งใจมากจนเกินไป หรือ ผมเป็นคนใจอ่อนครับ บางครั้งก็ช่วยเหลืองานคนอื่นจนกระทบงานของตัวเอง ตอบแบบนี้ไปกรรมการก็เห็นว่า นั้นข้อเสียนะแต่ก็มีข้อดีอยู่บ้าง ให้อภัยเค้าหน่อยเถอะ

ขอเลี่ยงประเด็นหน่อยละกันคำถามนี้ ชาวบ้านเรียกว่า ตอแหลเอาหน้า 

ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Question 12 : คุณคาดว่าจะทำงานที่นี้ไปกี่ปีครับ job interview by face2cu




คำถาม : คุณคาดว่าจะทำงานที่นี้ไปกี่ปีครับ
คำตอบ : จนชีวิตจะหาไม่ . . .

จริงๆอยู่เรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่เราจะระบุเป็นปี บางงานอาจเป็นงานแบบโปรเจค ทำเป็นสัญญารายปี แต่ถ้าหากเป็นถาวร แน่นอนว่ากรรมการคงจะอยากให้เราตอบว่าทำงานไปเรื่อยๆ เพราะเค้าคงจะไม่อยากที่จะมานั่งหาพนักงานใหม่บ่อยๆ ดังนั้นการตอบ ณ ตอนนี้ถือว่าเรายังไม่รู้ว่าจะทำงานกับเค้านานเท่าไหร่ เพราะการคุยกับกรรมการ กับดูชื่อเสียงของบริษัทแค่ไม่กี่ขั่วโมง ก็ไม่สามารถที่จะการันตีได้ว่าเราทำงาน หรือทนกับสภาพแวดล้อมได้ไหม

ในการตอบก็ตอบเป็นกลางๆ ไปว่า หากผมได้เข้าร่วมงานที่นี้จริงๆ นะ ผมเชื่อว่าผมจะพยายามเรียนรู้และตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ในส่วนทำงานกี่ปีตอนนี้ผมยังไม่มีแผนครับว่าจะทำงานแต่ละที่กี่ปี หากที่นี่ผมทำงานแล้วมีความสุข ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ผมก็คงจะอยู่ไปเรื่อยๆ

เห็นมั้ยครับเป็นการตอบแบบมีเงื่อนไข คือจะอยู่ก็ต่อเมื่อมีความสุขนะ ถ้าหากอยู่ไปแล้วทุกข์ก็อาจจะไม่อยู่ก็ได้


ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu

Question 11 : จุดแข็งของคุณคืออะไร job interview by face2cu


คำถาม : จุดแข็งของคุณคืออะไร
คำตอบ : ขยัน(มั้ง)ครับ

คำถามนี้เป็นคำถามที่จะเสนอว่าตัวเองดี เก่ง โดดเด่นอย่างไร ก่อนจะตอบควรจะตรวจสอบดูว่าตำแหน่งนั้นนิสัยจะเป็นอย่างไร อย่างเช่นถ้าไปสมัครเป็น call center ก็ดูว่าตำแหน่ง call center ควรจะมีจุดเด่นยังไง ไม่ใช่ไปตอบว่า ชอบแต่งตัวๆ สวยๆ ตาม fashion แต่ถามว่าเป็น call center ลูกค้าเห็นหน้ามั้ย ไม่เห็น ดังนั้นลองหาใหม่ อาจจะประมาณว่าเป็นคนใจเย็นมาก ชอบคุยกับคน ใจรักบริการ ตอบแบบนี้ กรรมการก็ใจชื้นได้ว่า รับคนนี้เค้ามาโดนลูกค้าวีนใส่ อย่างน้อยๆ ใจเย็นไม่ไปด่าลูกค้าก็พอล่ะ นี้ก็เป็นหลักการง่ายๆ ครับ แต่จุดแข็งที่คุณพูดมาก็ควรที่จะเป็นจุดแข็งของจริง ไม่เช่นนั้นกรรมการดูก็รู้ว่า คนนี้ fake รึเปล่า

ส่วนเมื่อพูดจุดแข็งแล้ว ก็อาจจะแถมเล่าว่าถึงเหตุการณ์ก็ได้ และก็ขอให้เป็นเหตุการณ์จริงด้วยนะครับ 


ไปดูคำถามอื่นกันเถอะ
face2cu